แว่น Blue Cut จำเป็นแค่ไหน เมื่อมือถือก็ตัดแสงสีฟ้าได้?

Blue Cut vs. โหมดตัดแสงสีฟ้าในอุปกรณ์ กับการตลาดแบบความกลัว – ควรเลือกแบบไหน?

ทุกวันนี้คนใช้หน้าจอมากขึ้น ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ และแท็บเล็ต ส่งผลให้ปัญหาสายตาและความกังวลเกี่ยวกับแสงสีฟ้าเพิ่มขึ้น สิ่งนี้ทำให้เกิดทางเลือกสองแบบในการปกป้องดวงตา:

1. Blue Cut Lens (เลนส์ตัดแสงสีฟ้า)

2. โหมดตัดแสงสีฟ้าในอุปกรณ์ (Blue Light Filter Mode)

แต่บางครั้งการขาย Blue Cut ถูกนำเสนอผ่านการตลาดแบบความกลัว (Fear-Based Marketing) ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคกังวลเกินเหตุและตัดสินใจซื้อโดยไม่จำเป็น


Blue Cut กับ โหมดตัดแสงสีฟ้าในอุปกรณ์ ต่างกันอย่างไร?

1. Blue Cut Lens (เลนส์ตัดแสงสีฟ้า)

ข้อดี:

• กรองแสงสีฟ้าได้จากทุกแหล่ง (หน้าจอ, หลอดไฟ LED)

ข้อเสีย:

• มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพราะต้องเปลี่ยนเลนส์

• บางรุ่นมีสีสะท้อนน้ำเงิน-ม่วง ทำให้ดูแปลกตา

• ไม่ใช่ทุกคนที่จำเป็นต้องใช้

2. โหมดตัดแสงสีฟ้าในอุปกรณ์ (Blue Light Filter Mode)

ข้อดี:

• ใช้งานได้ฟรี เป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่แล้วในมือถือและคอมพิวเตอร์

• สามารถปรับระดับแสงให้เหมาะสมได้

• เปิด-ปิดได้ง่าย ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริม

ข้อเสีย:

• ทำให้สีหน้าจอเพี้ยน (ออกโทนเหลือง/ส้ม)

• ป้องกันแสงสีฟ้าเฉพาะจากหน้าจอ ไม่ครอบคลุมแหล่งแสงอื่น

• อาจไม่ช่วยลดอาการล้าตาเท่ากับเลนส์บลูคัท


การตลาดแบบความกลัวกับ Blue Cut

บางแบรนด์หรือร้านแว่นอาจใช้กลยุทธ์ Fear-Based Marketing (การตลาดแบบความกลัว) เพื่อโน้มน้าวให้ลูกค้ารู้สึกว่าจำเป็นต้องซื้อ Blue Cut โดยใช้คำพูดที่ทำให้เกิดความกังวล เช่น

• “แสงสีฟ้าทำลายดวงตาของคุณแบบที่คุณไม่รู้ตัว!”

• “ถ้าไม่ใช้ Blue Cut ดวงตาของคุณจะเสื่อมเร็วขึ้น!”

• “อย่าปล่อยให้แสงสีฟ้าทำลายสายตาของคุณไปเรื่อย ๆ!”

ในความเป็นจริง ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นสาเหตุโดยตรงของจอประสาทตาเสื่อมแบบรุนแรง หากใช้จอไม่มาก หรือไม่มีอาการล้าตา อาจไม่จำเป็นต้องซื้อเลนส์ Blue Cut


ควรเลือกแบบไหน?

1. ถ้าคุณมีค่าสายตา (สายตาสั้น/ยาว/เอียง)

• ควรใช้แว่นบลูคัทที่มีค่าสายตา เพราะช่วยทั้งการมองเห็นและลดแสงสีฟ้า

• โหมดตัดแสงสีฟ้าในอุปกรณ์ อาจเป็นตัวช่วยเสริม แต่ไม่สามารถแทนที่แว่นสายตาได้

2. ถ้าคุณไม่มีค่าสายตา (สายตาปกติ)

• สามารถใช้ได้ทั้งสองแบบ

• ถ้าใช้จอหนัก ๆ อาจเลือก Blue Cut แต่ถ้าใช้จอน้อย โหมดตัดแสงสีฟ้าก็เพียงพอ

3. ถ้าต้องใช้งานหน้าจอวันละ 6-8 ชั่วโมงขึ้นไป

• แนะนำให้ใช้ Blue Cut เพราะช่วยลดอาการล้าตาได้

• สามารถใช้โหมดตัดแสงสีฟ้าเสริมในช่วงกลางคืน

4. ถ้าคุณมีงบจำกัด

• ใช้โหมดตัดแสงสีฟ้าในอุปกรณ์ เพราะไม่ต้องเสียเงิน

• ถ้ามีอาการปวดตาหนักจริง ๆ ค่อยพิจารณา Blue Cut


สรุป

• Blue Cut เหมาะกับคนที่มีค่าสายตา หรือใช้จอหนัก ๆ เป็นเวลานาน

• โหมดตัดแสงสีฟ้าในอุปกรณ์เป็นตัวเลือกฟรี ใช้ได้ดีสำหรับคนทั่วไป

• การตลาดแบบความกลัวอาจทำให้บางคนรู้สึกว่าต้องใช้ Blue Cut ทั้งที่อาจไม่จำเป็น

• ควรตัดสินใจจากพฤติกรรมการใช้จอของตัวเอง มากกว่าถูกโน้มน้าวด้วยความกลัว

Leave a comment